
มอเตอร์ที่ใช้กับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงนี้ มีระบบไฟฟ้าอยู่สองระบบ คือ ระบบไฟ 2 สาย กับ ระบบไฟ 3 สาย เลือกให้ถูกกับระบบไฟฟ้าที่เราใช้ในร้านนะครับ ถ้าคาดว่ากิจการจะมีขนาดกลางๆถึงขนาดใหญ่ รับรถวันละ 20 คันขึ้นไป ผมขอแนะนำระบบไฟ 3 สายดีกว่าครับ ทั้งประหยัดค่าไฟ ราคามอเตอร์ก็ถูกกว่าถ้าต้องเปลี่ยนเมื่อชำรุด รวมทั้งยังปลอดภัยกว่าด้วย
ส่วนขนาดของแรงดันนั้น แนะนำอยู่ 3 ระดับ คือ 100 บาร์ 150 บาร์ และ 200 บาร์ ขนาดที่ผมว่ากำลังพอเหมาะคือ 150 บาร์ กำลังกลางๆ ไม่เบาไป และไม่แรงเกินไป เวลาปรับใช้งานจริงปรับระดับความแรงไว้แค่ 100 - 110 บาร์ก็พอแล้ว ให้เครื่องทำงานไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของแรงดันทั้งหมด เครื่องจะได้ไม่ทำงานหนักจนเกินไป อีกอย่างการตั้งค่าแรงดันน้ำไว้สูงๆจะทำให้เกิดความเสียหายกับรถของลูกค้าได้ ราคาของเครื่องก็ผันแปรไปตามแรงดัน ยิ่งแรงดันมากก็ยิ่งราคาสูง อีกทั้งต้องใช้ขนาดของมอเตอร์ใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งนั่นก็นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า
ขนาดความยาวของสายฉีดควรอยู่ประมาณ 12 - 15 เมตร หุ้มด้วยสายยางอ่อนอีกชั้นเพื่อป้องกันการสึกหรอที่เกิดจากการลากไปมาตามพื้น

ถ้ากิจการไปได้ด้วยดีขอแนะนำให้มีเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสัก 2 เครื่อง เอาไว้ใช้ในจังหวะที่มีรถเข้ามาใช้บริการหนาแน่น ใช้ล้างรถที่ไม่สกปรกมากนัก ล้างรถจักรยานยนต์ เป็นเครื่องสำรองเวลาเครื่องหลักมีปัญหาต้องซ่อมแซม งานจะได้ไม่หยุดนิ่ง อาจจะใช้เครื่องขนาดเล็กแรงดัน 100 บาร์ก็ได้
วิธีการดูแลรักษาของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงไม่มีอะไรมากมาย เพียงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 500 ชั่วโมง หมั่นถอดกรองดักน้ำออกมาล้างเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำที่ใช้อยู่ด้วย ถ้าจะให้ดีควรติดตั้งกรองดักน้ำเพิ่มต่างหากจากที่มีติดมากับเครื่องอีก 1 จุด วางไว้ในตำแหน่งที่ดูแลรักษาได้ง่าย จะได้ไม่ต้องไปถอดล้างกรองที่ติดมากับเครื่องซึ่งส่วนใหญ่จะทำจากพลาสติกบ่อยๆ สังเกตุง่ายๆหากล้างๆอยู่แล้วแรงดันน้ำตกหรือแรงดันไม่คงที่ให้ถอดกรองดักน้ำนี้ออกมาทำความสะอาดเสียก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น