สำหรับธุรกิจคาร์แคร์นั้น เราสามารถนำเอาวิธีการตลาดแบบ Cross Selling นี้มาประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน เมื่อลูกค้าเข้ามาภายในร้านด้วยวัตถุประสงค์เพียงแค่มาล้างสีดูดฝุ่นหรือล้างอัดฉีดเท่านั้น แต่พนักงานรับรถนำเสนอบริการอื่นเพิ่มเติมให้กับลูกค้าตามความเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือก เช่น เคลือบสี เคลือบกระจก หรืออบโอโซน เป็นต้น ซึ่งแต่ละบริการที่นำเสนอเพิ่มนั้นเป็นล้วนแล้วแต่ประโยชน์กับลูกค้าทั้งสิ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกค้าอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีบริการเหล่านี้
การตลาดแบบ Cross Selling นี้จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องประกอบด้วย
1.มีบริการที่หลากหลาย และมีความพร้อมที่จะให้บริการเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
2.มีการฝึกอบรมหรือประชุมชี้แจงรายละเอียดต่างๆของผลิตภัณฑ์และทุกๆบริการที่มี ให้พนักงานมีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ซึ่งเพียงพอที่จะนำเสนอและตอบข้อซักถามเบื้องต้นจากลูกค้าได้
3.เลือกนำเสนอสิ่งที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเท่านั้น ไม่ใช่พยายามที่จะขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว
4.ใช้ความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ความจริงใจในการให้ความช่วยเหลือกับลูกค้า ให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์หรือเลือกใช้บริการอื่นเพิ่มเติมได้ง่ายยิ่งขึ้น
5.มีการบริการจัดการด้านข้อมูลลูกค้าที่ดี ในภาวะการแข่งขันทางตลาดปัจจุบัน เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำตลาด ดังนั้น กิจการที่มีข้อมูลของลูกค้ามากที่สุดจึงมักจะได้เปรียบคู่แข่งขัน การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยจึงเป็นความจำเป็นหนึ่งซึ่งเราอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับกิจการคาร์แคร์นั้น ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนอะไรมากมาย ขอแค่เก็บข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้า เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อาชีพ รถที่ลูกค้าใช้ เป็นต้น เก็บข้อมูลการใช้บริการของลูกค้าที่สามารถเรียกดูย้อนหลังได้ ส่วนระบบสต็อกสินค้านั้นสำหรับธุรกิจนี้แทบจะไม่มีความจำเป็น เพราะไม่ได้มีสินค้าอะไรมากมายนัก ข้อมูลของลูกค้าที่ว่านี้จะช่วยทำให้เรานำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงเป้าหมายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น