คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการประกาศปรับอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำแบบก้าวกระโดดนั้นมีผลกระทบถึงผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างแน่นอน ธุรกิจคาร์แคร์เองก็คงส่งผลกระทบให้เห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากอัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับขึ้นนั้นไม่ต่ำไปกว่า 40 % ของอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเดิม แค่ต้นทุนในเรื่องของค่าแรงอย่างเดียวก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการปรับราคาค่าบริการขึ้นตามไปด้วย แต่ทีนี้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นนั้นควรจะเป็นเท่าไหร่ดี เพราะคงไม่มีเพียงแต่ค่าแรงเท่านั้นที่ปรับขึ้น ต้นทุนของวัสดุสิ้นเปลืองและเคมีภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ในงานก็คงมีราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน หากเอาต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดมาเป็นตัวบวกเพิ่มค่าบริการ นันก็เป็นตัวเลขที่สูงอยุ่ใช่เล่น แล้วลูกค้าจะยอมรับได้หรือไม่กับราคาที่ปรับขึ้นทีเดียวหลายสิบบาทอย่างนี้แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ถ้าจะไม่ปรับราคาค่าบริการเสียเลย เพราะไม่งั้นผู้ประกอบการก็อยู่ต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน แล้วถ้าไม่ปรับค่าแรงล่ะ หรือปรับบ้างแต่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด นั่นเป็นทางเลือกที่ผิดเต็มประตู อย่างแรกเลยก็ผิดกฎหมาย ถัดมาก็คงไม่มีพนักงานอยู่ทำงานต่อด้วย เพราะไม่เป็นธรรมสำหรับลูกจ้าง
ฉะนั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน กับค่าบริการที่สูงขึ้นหลายสิบบาทในชั่วข้ามวันข้ามคืน คงต้องอธิบายรายละเอียดลูกค้าไปทุกๆรายถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ลูกค้าต้องจ่ายมากขึ้นกว่าเดิม ผมเชื่อว่าลูกค้าทุกคนคงจะเข้าใจ และไม่โกรธหรือคิดว่าเราฉวยโอกาสในการขึ้นราคาค่าบริการ เพราะความจริงที่เราชี้แจงให้ทราบ คงต้องเหนื่อยหน่อยในช่วงแรกๆกับการพูดอะไรซ้ำๆกันหลายครั้งในแต่ละวัน แต่มันจำเป็นนะสำหรับการทำให้ลูกค้าเข้าใจเราและอยู่กับเราต่อไปนานๆ
ในขณะเดียวกันค่าบริการที่สูงขึ้นย่อมส่งผลให้ยอดการใช้บริการของลูกค้าลดลงบ้างอย่างแน่นอน เพราะส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าที่มีรถยนต์และเข้ามาใช้บริการเป็นประจำนั้น มีอัตราการเพิ่มของค่าจ้างแรงงานไม่มากเท่าไหร่ แต่ภาวะค่าใช้จ่ายที่กระทบมาจากการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำนั้นสูงขึ้น ลูกค้าต้องจัดระเบียบการใช้เงินของตัวเองใหม่ เคยล้างรถสัปดาห์ละครั้ง ก็จะเป็นสองสัปดาห์ครั้ง หรือเดือนละครั้ง ดังนั้นถ้าร้านที่มีฐานของลูกค้าเดิมอยู่มาก ผลกระทบก็คงจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าร้านที่พึ่งเปิดกิจการใหม่ๆยังมีลูกค้าประจำอยุ่ไม่มาก ผลกระทบที่ได้รับคงรุนแรงพอสมควร
แล้วจำเป็นแค่ไหนสำหรับโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม สำหรับผมแล้วคิดว่าไม่จำเป็นอะไรที่ต้องไปทำเช่นนั้น เพราะค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นภายในร้านก็หนักหนาสาหัสพอควรอยู่แล้ว แต่ถ้าคิดจะทำก็ควรจะเลือกใช้กับบริการที่มีมูลค่าของกำไรสูงๆ หรือไม่ต้องสูญเสียแรงงานไปทำงานที่ไม่ได้ผลตอบแทนอะไร เช่น ล้าง 10 ครั้ง แถมอบโอโซน เป็นต้น
บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น