อันดับแรกที่จะกล่าวถึงจะเป็นเรื่องของการคำนวณพื้นที่ของป้ายก่อน การคำนวณพื้นที่ของป้ายจะใช้หน่วยในการคำนวณพื้นที่เป็นตารางเซนติเมตร โดยมีวิธีการคำนวณดังนี้
- ป้ายที่มีขอบเขตกำหนดได้ ใช้ส่วนที่กว้างที่สุด x ส่วนที่ยาวที่สุด
- ป้ายที่ไม่มีขอบเขตกำหนดได้ ให้คือ ตัวอักษร รูปภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขต ส่วนที่กว้างที่สุด x ส่วนที่ยาวที่สุด
ส่วนอัตราภาษีป้ายนั้นมีหลักเกณฑ์การคิดดังนี้
- อักษรไทยล้วน คิด 3 บาท /500 ตารางเซนติเมตร
- อักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ รูปภาพ หรือเครื่องหมายอื่นๆ คิด 20 บาท / 500 ตารางเซนติเมตร
- ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้ หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ คิด 40 บาท / 500 ตารางเซนติเมตร
การคำนวณภาษีป้าย ทำได้ดังนี้
พื้นที่ป้าย x อัตราภาษีป้าย เช่น 20,000 ตารางเซนติเมตร / 500 x 3 = 120 บาท เป็นต้น แต่กฎหมายได้กำหนดไว้อีกอย่างว่า ถ้าภาษีป้ายที่คำนวณได้นั้นต่ำกว่า 200 บาท จะต้องชำระภาษีป้ายขั้นต่ำที่ 200 บาท
ส่วนระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้ายนั้นให้ยื่นแบบภายในเดือนมีนาคมของทุกปี หากมีการติดตั้งป้ายหลังเดือนมีนาคม หรือมีการติดตั้งป้ายใหม่แทนป้ายเดิม หรือ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขป้ายเดิมซึ่งมีผลทำให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน 15 วัน นับแต่วันติดตั้ง หรือนับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนแปลงแก้ไข
ส่วนระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้ายนั้นให้ยื่นแบบภายในเดือนมีนาคมของทุกปี หากมีการติดตั้งป้ายหลังเดือนมีนาคม หรือมีการติดตั้งป้ายใหม่แทนป้ายเดิม หรือ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขป้ายเดิมซึ่งมีผลทำให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน 15 วัน นับแต่วันติดตั้ง หรือนับตั้งแต่วันที่เปลี่ยนแปลงแก้ไข
รู้หลักเกณฑ์กันแล้วนะครับ คราวนี้ก็ออกแบบป้ายกิจการคาร์แคร์ของท่านเองตามค่าใช้จ่ายที่ตัวเองยอมรับได้กัน แต่ขอแนะนำเพิ่มเติมอีกอย่างนะครับ ถ้าเป็นไปได้หาสปอนเซอร์สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในร้านเป็นคนจ่ายแทนให้จะดีกว่าเพราะจะได้ประหยัด เอาค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเองในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ทางอื่นในร้านดีกว่าครับ อีกอย่างบางทีโลโก้หรือชื่อสินค้าที่มีชื่อเสียงนั้นมาปะปนกับป้ายชื่อกิจการของเราอาจช่วยสร้างความมั่นใจในกิจการของเราให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่งก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น